วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log (ในห้องเรียน)
ครั้งที่ 1
จากที่ได้เรียนมาสรุปได้ว่า i + 1 = Comprehensible Input ซึ่ง i คือ input (ตัวนักเรียน) 1. คือตัวครู ผลลัพธ์ที่ได้รับคือความรู้ความเข้าใจที่ได้จากครูและนักเรียน ซึ่งถ้าครูสอนดี เนื้อหาเหมาะสมกับตัวนักเรียน และตัวนักเรียนเองกสามารถรับข้อมูลได้ ก็จะเท่ากับความสำเร็จ แต่ถ้าครูสอนเนื้อหาที่ไม่เหมาะกับนักเรียน อาจจะง่ายกว่าหรือยากกว่าก็จะไม่ได้ผลสำเร็จ และก็ไม่เกิดการเรียนรู้ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ้งการที่ครูจะรู้ว่าเด็กเหมาะกับเนื้อหาใดนั้น ก็จะมีเทคนิคหลายๆอย่างเพื่อที่จะพิสูจน์ เช่น การ pretest และข้อควรที่จะคำนึงถึงและสำคัญมากอย่างหนึ่งสำหรับครูคือ background knowledge ของผู้เรียน

กาล
คำกริยาในประโยคภาษาอังกฤษจะบอกถึงการกระทำให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อไร ซึ่งจะแตกต่างกับประโยคภาษาไทยที่ไม่สามารถบอกกาลได้ บางกรณีอาจดูเวลาของการกระทำได้จากคำขายกิริยา ซึ่งมันจะเกิดปัญหาเวลาแปล ทำให้คำแปลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตัวอย่างประโยคเช่น
1.             He lived in Lampang for a year.
2.             He has lived in Lampang for a year.
ประโยคทั้งสองข้อ ใช้เวลาต่างกันและมีความหมายต่างกัน
1.             He lived in Lampang for a year.
ใช้กับกริยาเป็น past simple มีความหมายว่า เขาเคยอยู่ลำปางมาก่อน 1 ปี อยู่เมื่อไรไม่ทราบ ทราบแต่ว่าอยู่มาก่อนเวลาที่พูดถึง และตอนนี้เขาไม่ได้อยู่แล้ว
2.             He has lived in Lampang for a year.
ใช้กริยาเป็น present perfect มีความหมายว่า เขาอยู่ลำปางมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี ตอนนี้เขาก็ยังอยู่
·       สิ่งที่สำคัญในการแปลคือ ต้องสั้น กระชับ รัดกุม แต่ได้ความหมาย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น