วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log (นอกห้องเรียน)
ครั้งที่ 12

การเรียนรู้ภาษาอังกฤษหรือภาษาใดก็แล้วแต่มีเพียง 4 ทักษะหลักๆที่เราจะต้องเรียนรู้ คือ ฟัง พูด อ่าน และเขียน ก่อนทำการศึกษาเราควรรู้ระดับของตัวเองก่อนว่าภาษาเราแย่มาก แย่ ใช้ได้ ดี หรือ ดีมากแค่ไหน วิธีทดสอบไม่ต้องไปหาแบบทดสอบมาทำให้ยุ่งยากเพราะเรารู้ตัวเราเองอยู่แล้วว่าเราอยู่ระดับไหน เพียงแค่ไม่โกหกตัวเองเป็นพอ เสร็จแล้วตั้งเป้าหมายหรือหาจุดมุ่งหมายของการเรียนว่าเราจะพัฒนาทักษะด้านใดดี ขั้นตอนต่อไปก็เพียงแค่เริ่มลงมือและอดเท่านั้นเอง ช่องทางและวิธีขออธิบายในลำดับต่อไป

ในวันที่ 22 ตุลาคม 2558 ดิฉันเลือกที่จะเรียนรู้ทักษะการฟัง การฟังเป็นการเรียนรู้ที่สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะแค่ 1 นาที 5 นาที หรือเป็นชั่วโมง การฝึกที่ดีที่สุดคือการฟังข่าวภาษาอังกฤษ ช่องทางการฟังมีหลากหลายมาก เช่น ดูข่าวผ่านทีวี CNN, BBC หรือช่องอื่นๆ หรือ ฟังข่าวออนไลน์ผ่านมือถือ ซึ่งหาดาวน์โหลดพยายามฟังบ่อยๆ หากมีเวลาพยายามตั้งใจฟังและพยายามจับให้ได้ว่าเขากำลังรายงานข่าวเรื่องอะไรอยู่ พยายามแยกแยะคำศัพท์แต่ละคำออกจากกันให้ได้ถึงแม่จะไม่รู้ความหมายของคำนั้นๆก็ตาม เพราะถ้าเราฟังเฉยๆลอยๆเราก็จะไม่ได้อะไร ดังนั้นช่วงเริ่มฟังใหม่ๆไม่จำเป็นต้องรู้ความหมายหรือรู้เรื่องทั้งหมด แค่พยายามจับคำของนักข่าวให้ได้ก็พอ การฟังบ่อยก็ช่วยให้เราคุ้นชินกับสำเนียง ท่วงทำนอง ระดับสูงต่ำ ของภาษาได้ไปในตัว ฟังไปนานๆมันจะฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกเราเองและไม่ช้าเราจะจับคำพูดที่เราฟังได้โดยที่ไม่ต้องพยายามอีกต่อไป ดิฉันจึงเลือกที่จะดาวโหลด Podcast ข่าวของ CNN หรือ BBC มาไว้ในโน๊ตบุคและเข้าไปที่ Learning English ของ Voice of America จาก http://learningenglish.voanews.com ในนี้จะรวบรวมข่าวพร้อมคลิปเสียงการบรรยายข่าวนั้นๆโดยเขาทำไว้เพื่อให้คนฝึกฟังภาษาอังกฤษโดยเฉพาะ ดังนั้นการรายงานข่าวจึงไม่เร็วเกินไปและชัดถ้อยชัดคำมาก
ในวันที่ 24 ตุลาคม 2558 ดิฉันเลือกที่จะเรียนรู้ทักษะการอ่าน การอ่านน้อยได้น้อย อ่านมากได้มาก อันนี้ขึ้นอยู่กับความขยันของตัวบุคคล ทุกครั้งที่ดิฉันอ่าน ดิฉันจะได้อะไรประโยชน์เสมอ สำหรับการอ่านภาษาอังกฤษไหนๆก็จะเริ่มอ่านแล้วควรอ่านให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ดิฉันเลือกที่จะอ่านข่าวภาษาอังกฤษจากเว็บ http://www.bbc.com  การอ่านจะต่างจากการฟังตรงที่เวลาอ่านพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังอ่าน หากเจอคำศัพท์แปลกที่เราไม่รู้ความหมายดิฉันจะเปิดพจนานุกรมและเขียนกำกับไว้เลย การอ่านไม่จำเป็นต้องเปิดแบบละเอียดทุกคำเพราะมันจะทำให้ดิฉันเกิดอาการหงุดหงิดท้อและเลิกอ่านไปในที่สุด บางทีเราสามารถเดาความหมายจากบริบทได้

การเรียนรู้ภาษาที่สามจะต้องมาควบคู่กับความขยันและอดทน หากขาดสิ่งนี้การเรียนรู้แทบจะไม่ได้ผลเลย เพราะฉะนั้น ดิฉันจึงไม่เลือกที่จะเรียนรู้ทั้งสี่ทักษะพร้อมๆกัน แต่ดิฉันเลือกที่จะเรียนทีละทักษะ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ได้มากที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น