Learning Log (นอกห้องเรียน)
ครั้งที่ 9
วิธีฝึกภาษาอังกฤษผ่านการฟังเพลงสากล
สมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็น Ipod มือถือ หรือ เครื่องเล่น mp3
ในรูปแบบต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้ไปแล้ว
แต่เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า เราได้อะไรจากสิ่งเหล่านี้บ้าง นอกจาก
ความผ่อนคลาย (Relaxation) และความบันเทิง
(Entertainment) หลายคนคงสงสัยแล้วละสิ ว่า
เราสามารถจะประยุกต์การฟังเพลงให้เกิดประโยชน์กับเราในการฝึกภาษาอังกฤษได้อย่างไร
สำหรับวิธีฝึกภาษาอังกฤษผ่านการฟังเพลงนั้น
เราจะต้องเริ่มต้นด้วยการหาเนื้อร้อง (Lyrics) ของเพลงนั้นๆ
โดยสามารถหาเนื้อร้องได้จากหลายๆวิธีด้วยกัน เช่น ค้นหาจาก Google – เพียงแค่พิมพ์ชื่อเพลง
ชื่อนักร้อง และคำว่า “lyrics” เท่านี้เอง
ก็จะพบกับลิงค์เว็บไซต์ต่างๆที่มีเนื้อเพลงเหล่านี้อยู่ ค้นหาจาก Youtube เป็นวิธีที่นิยม เนื่องจากเนื้อเพลงบนวิดีโอนั้นจะเปลี่ยนไปเรื่อยตามคำร้อง
หลังจากที่ได้เนื้อร้องภาษาอังกฤษมาแล้วก็ถึงเวลาฝึกฝนกัน โดยวิธีดังต่อไปนี้ 1. ฟังเพลงโดยไม่ดูเนื้อร้องสักสองสามรอบ
แล้วพยายามจับประโยคเนื้อร้องภาษาอังกฤษนั้นให้ได้มากที่สุด 2. ร้องเพลงตามเนื้อร้องหลายๆรอบ จนมั่นใจว่าเราจำเนื้อร้องภาษาอังกฤษท่อนต่างๆนั้นได้แล้ว 3. ฝึกร้องเพลงโดยไม่อ่านเนื้อร้อง
หากยังจำเนื้อร้องภาษาอังกฤษไม่ได้ให้ย้อนกลับไปดูเนื้อร้องอีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่แนะนำให้ทำควบคู่ไปด้วยเพื่อการฝึกภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพ เขียนเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษออกมาให้ได้มากที่สุดพร้อมไปกับการฟังเพลงนั้นในครั้งแรก
โดยอาจจะให้โอกาสตัวเอง 2-3 ครั้ง เพื่อดูว่าเราจับใจความไหนได้บ้าง
และเพื่อที่จะได้วิเคราะห์ได้ว่า เหตุใดเราถึงจับประโยคเหล่านั้นไม่ได้ แปลเนื้อร้องทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องมีความหมายถูกต้อง 100%
แต่ขอให้แปลแบบที่เราสามารถเข้าใจได้และความหมายไม่เพี้ยนก็พอ
และหากเจอศัพท์ที่เราไม่คุ้นเคย ก็ให้ลองค้นหาความหมายของคำนั้นจาก dictionary ดูโครงสร้างประโยคต่างๆที่ใช้ในเนื้อเพลง
หากต้องการฝึกการสร้างประโยคภาษาอังกฤษในรูปแบบต่างๆ
เราสามารถที่จะไล่ดูทีละประโยคในเนื้อร้องว่า มีการใช้รูปแบบประโยคอย่างไร เช่น If I were a boy even just for a day, I'd roll out of bed in morning
เป็นประโยคที่มาจากโครงสร้าง
If + Past Simple, would + V.1 เป็นต้น
ทักษะการฟังไม่สามารถพัฒนาขึ้นในชั่วข้ามคืน
ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนทำซ้ำๆ อย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ฟังครั้งนึงไม่กี่นาทีแต่เน้นฝึกบ่อยๆ
จะได้ผลดีกว่าการฟังครั้งนึงเป็นชั่วโมงแต่ฝึกแค่สัปดาห์ละครั้ง ถ้ารู้สึกว่าสกิลเริ่มพัฒนาขึ้นแล้ว ระหว่างฟังจะฝึกพูดไปด้วยก็ได้ การพูดตามจะทำให้เราโฟกัสกับสิ่งที่ฟังมากขึ้น
และเป็นการรีเช็คให้มั่นใจว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นถูกต้องมากยิ่งขึ้นด้วย ระยะเวลาในการอัพเลเวลของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน
บางคนอาจจะใช้เวลาเป็นเดือน หรือบางคนอาจต้องใช้เวลาเป็นปี
ขึ้นอยู่กับความสามารถและความมุ่งมั่น การเรียนภาษาไม่มีทางลัด
ฝึกฝนเท่านั้นที่จะทำให้เราเก่งขึ้นได้ ยิ่งใครอยากไปเป็นนักเรียนนอกก็ยิ่งต้องฟิตให้มากขึ้นผลจากความพยายามอย่างสุดความสามารถ
จะตอบแทนเราอย่างคุ้มค่าแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น