วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Learning Log (ในห้องเรียน)
ครั้งที่ 3
Tense   คือรูปแบบ(หรือโครงสร้าง)ของกริยาที่แสดงให้เราทราบว่าการกระทำหรือเหตุการณ์นั้นๆเกิดขึ้นเมื่อใด   ซึ่งเรื่อง tense นี้เป็นเรื่องสำคัญ  ถ้าเราใช้ tense ไม่ถูกเราก็จะสื่อภาษากับเขาไม่ได้เพราะในประโยคภาษาอังกฤษนั้นจะอยู่ในรูปของ tense เสมอ  ซึ่งต่างกับภาษาไทยที่เราจะมีข้อความบอกว่าเกิดขึ้นเมื่อใดมาช่วยเสมอ แต่ภาษาอังกฤษจะใช้รูป tense นี้มาเป็นตัวบอก  ดังนี้การศึกษาเรื่อง tense จึงเป็นเรื่องจำเป็น Tense ในภาษาอังกฤษนี้จะแบ่งออกเป็น 3 tense ใหญ่ๆคือ Present  tense (ปัจจุบัน) Past tense (อดีตกาล) Future tense (อนาคตกาล) ในแต่ละ tense ยังแยกย่อยได้ tense ละ 4 คือ Simple tense (ธรรมดา)Continuous tense (กำลังกระทำอยู่) Perfect  tense (สมบูรณ์) และ Perfect  continuous  tense  สมบูรณ์กำลังกระทำ

Present Simple Tense มีโครงสร้างดังนี้ S + Verb1 + …… (บอกความจริงที่เกิดขึ้นง่ายๆ ตรงๆไม่ซับซ้อน) หลักการใช้ของมันคือ 1.ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความจริงของธรรมชาติและคำสุภาษิตคำ พังเพย  2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริงในขณะที่พูด (ก่อนหรือหลังจะไม่จริงก็ตาม) 3.ใช้กับกริยาที่ทำนานไม่ได้ เช่น รัก เข้าใจ รู้  เป็นต้น 4.ใช้กับการกระทำที่คิดว่าจะเกหิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ (จะมีคำวิเศษณ์บอกอนาคตร่วมด้วย) 5.ใช้ในการเล่าสรุปเรื่องต่างๆในอดีตเช่นนิยาย นิทาน 6.ใช้ในประโยคเงื่อนไขในอนาคต และ 7.ใช้กับเรื่องที่กระทำอย่างสม่ำเสมอ
Present Continuous Tense มีโครงสร้างดังนี้ S + is, am, are + Verb1 ing  + … (บอกว่าเดี๋ยวนี้กำลังเกิดอะไรอยู่) หลักการใช้ของมันของคือ 1. ใช้ในเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในขณะที่พูด 2. ใช้ในเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในระยะเวลาอันยาวนาน และ3. ใช้กับเหตุการณ์ที่ผู้พูดมั่นใจว่าจะต้องเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ 
Present Perfect Tense มีโครงสร้างดังนี้ S + has, have + Verb3 + …. (บอกว่าได้ทำมาแล้วจนถึง ปัจจุบัน) และมีหลักการใช้ดังนี้ 1.ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีตและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน 2.ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้เคยทำมาแล้วในอดีตจะมีคำว่า ever,  never  มาใช้ร่วมด้วย 3.ใช้กับเหตุการณ์ที่จบลงแล้วแต่ผู้พูดยังประทับใจอยู่ และ 4.ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งจบไปแล้วไม่นานซึ่งจะมีคำเหล่านี้มาใช้ร่วมด้วยเสมอคือ  Just, already, yet, finally  เป็นต้น
Present Perfect Continuous Tense มีโครงสร้างดังนี้ S + has, have + been + Verb1 ing + … (บอกว่าได้ทำมาแล้วและกำลังทำต่อไปอีก) และมีหลักการใช้ดังนี้คือมีหลักการใช้เหมือนกับ Present Perfect ทุกประการ เพียงแต่ว่าเน้นว่าจะทำต่อไปในอนาคตด้วย 
Past Simple Tense มีโครงสร้างดังนี้ S + Verb2 + ….. (บอกเรื่องที่เคยเกิดมาแล้วในอดีต) และมีหลักการใช้ดังนี้ 1.ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงแล้วในอดีตมิได้ต่อเนื่องมาถึงขณะที่พูด 2.ใช้กับเหตุการณ์ที่ทำเป็นประจำในอดีตที่ผ่านมาในครั้งนั้นๆ 3.ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตแต่ปัจจุบันไม่ได้เกิดอยู่หรือไม่ได้เป็นดั่งในอดีตนั้นแล้ว 4.ใช้ในประโยคที่คล้อยตามที่เป็น Past Tense ประโยคคล้อยตามก็ต้องเป็น Past Sim…
Past Continuous Tense มีโครงสร้างการใช้ดังนี้ S + was, were + Verb 1 +… (บอกเรื่องที่กำลังทำอยู่ในอดีต) และมีหลักการใช้ดังนี้ 1.ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อม เกิดก่อนใช้ Past Con ถ้าเกิดทีหลังใช้ Past Sim 2.ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้กระทำติดต่อกันตลอดเวลา 3.ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่กำลังทำในเวลาเดียวกัน
Past Perfect Tense มีโครงสร้างดังนี้ S + had + verb 3 + … (บอกเรื่อที่ทำมาแล้วในอดีตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง) และมีหลักการใช้ดังนี้ 1.ใช้กับ เหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต  มีหลักการใช้ดังนี้ เกิดก่อนใช้ Past Perfect เกิดทีหลังใช้ Past Simple 2.ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำอันเดียวก็ได้ในอดีต แต่ต้องระบุชั่วโมงและวันให้แน่ชัดไว้ในทุกประโยคด้วยทุกครั้ง 
Past Perfect Continuous Tense มีโครงสร้างดังนี้ S + had + been + verb1 ing + … (บอกเรื่องที่ทำมาแล้วอย่างต่อเนื่องไม่หยุด) และมีหลักการใช้ดังนี้ มีหลักการใช้เหมือนกับ Past Perfect  ทุกกรณี  เพียงแต่  tense นี้ต้องการย้ำถึงความต่อเนื่องของการกระทำที่ 1 ว่าได้กระทำต่อเนื่องไปจนถึงการกระทำที่ 2 
Future Simple Tense มีโครงสร้างดังนี้ S + will, shall + verb 1 +…. (บอกเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต) และมีหลักการใช้ดังนี้  ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ซึ่งจะมีคำว่า tomorrow, to night,  next week, next month เป็นต้น มาร่วมอยู่ด้วย
Future Continuous Tense  มีโครงสร้างดังนี้ S + will, shall + be + Verb 1 ing + …. (บอกว่าอนาคตนั้นๆกำลังทำอะไรอยู่) และมีหลักการใช้ดังนี้ 1.ใช้ในการบอกกล่าวว่าในอนาคตนั้นกำลังทำอะไรอยู่ 2.ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอนาคต มีกลักการใช้ดังนี้ เกิดก่อนใช้ Future Con เกิดทีหลังใช้ Present Sim
Future Perfect Tense มีโครงสร้างดังนี้ S + will, s hall + have + Verb 3 +… (บอกเรื่องที่จะเกิดหรือสำเร็จในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง) และมีหลักการใช้ดังนี้ 1.ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหรือสำเร็จลงในเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต  โดยจะมีคำว่า by นำหน้ากลุ่มคำที่บอกเวลาด้วย เช่น   by tomorrow, by next week   เป็นต้น 2.ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอนาคต มีหลักดังนี้ เกิดก่อนใช้ Future Perfect   เกิดทีหลังใช้ Present Sim
Future Perfect Continuous Tense มีโครงสร้างดังนี้ S + will, shall + have + been + verb 1 ing + ...           (บอกเรื่องที่จะทำอย่างต่อเนื่องในเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคตและจะทำต่อไปเรื่อยข้างหน้า) และมีหลักการใช้ดังนี้ ใช้เหมือนกับ Future Perfect ต่างกันเพียงแต่ว่า เน้นถึงการกระทำที่ 1 ได้ทำต่อเนื่องมาจนถึงการกระทำที่ 2 และจะกระทำต่อไปในอนาคตอีกด้วย






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น